8 เทรนด์สกินแคร์มาแรงห้ามพลาด ปี 2022
ในปี 2022 นี้เทรนด์สกินแคร์ยังคงมาแรง เพราะทุกคนต่างก็หันมาสนใจในการดูแลผิวตัวเองกันมากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศ มลภาวะ และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่ต่างก็มีส่วนในการทำให้ผิวเสียได้ โดยเทรนด์สกินแคร์ที่มาแรงในปีนี้ ก็ยังรวมถึงการใส่ใจในส่วนประกอบต่างๆอีกด้วย โดยแบ่งออกเป็น 8 เทรนด์หลักๆ นั่นก็คือ
1. Skin Immunity หรือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง ลดการอักเสบ หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาสมดุลของผิวเพื่อให้ผิวแข็งแรงพร้อมเผชิญทุกสถานการณ์
2. Skinimalism โดยการคงคอนเซ็ปต์ “น้อยแต่มาก” นั่นคือการเลือกใช้สกินแคร์ที่ให้ประสิทธิภาพและตอบโจทย์ได้ในขวดเดียว เนื่องจากการใช้สกินแคร์หลายขั้นตอนหรือหลายผลิตภัณฑ์นั้น อาจทำให้ผิวเสียกว่าเดิมจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม
3. Microdosing กับผลลัพธ์ที่ช้าแต่ชัวร์ ซึ่งก็คือการกำหนดปริมาณความเข้มข้นของส่วนผสมในสูตรให้มีความเข้มข้นที่น้อยลง แต่สามารถใช้ได้ทุกวันและเห็นผล โดยที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อย่างเช่นการ Microdosing เรตินอล หรือวิตามิน ซี ซึ่งถ้าใช้ที่ความเข้มข้นสูงอาจทำให้ผิวแพ้หรือระคายเคืองได้ แต่ก็ไม่ใช่ส่วนผสมทุกตัวที่สามารถทำ Microdosing ได้ อย่างเช่นสารกันแดดบางตัว ที่จำเป็นจะต้องใช้ในปริมาณมาก เพื่อประสิทธิภาพในการกันแดดที่เหมาะสม
4. Sustainability Beauty ต้องยอมรับเลยว่า “เทรนด์รักษ์โลก” เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงและส่งผลต่อวงการสกินแคร์อย่างมาก โดยเน้นการเลือกผลิตภัณฑ์หรือส่วนประกอบในสกินแคร์ที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ รวมไปถึงวัตถุดิบหมุนเวียนหรือเหลือใช้ (Renewable products) ซึ่งผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ส่วนใหญ่นั้นยังอ่อนโยนต่อผิวอีกด้วย
5. High-Potency With Waterless Beauty หรือสกินแคร์ที่ลดการใช้น้ำในสูตร เนื่องจากน้ำเป็นทรัพยากรที่มีค่าและหมดไปได้ เพื่อรักษาปริมาณน้ำเอาไว้ จึงทำผู้คนต่างมองหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำ โดยข้อดีของ Waterless Beauty Products คือปริมาณน้ำที่ลดลง ส่งผลให้ Active หรือสารออกฤทธิ์มากขึ้น จึงทำให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวมากขึ้นนั่นเอง
6. Fermented Skincare หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่าส่วนผสมของสกินแคร์ที่ได้จากการหมักต่างๆนั้นล้วนมีประโยชน์ต่อผิวเรา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย มอบความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมถึงสามารถช่วยลดการอักเสบและการระคายเคืองของผิวได้ ซึ่งส่วนผสมที่ได้จากการหมักเหล่านี้สามาถช่วยกระตุ้นผิวให้สามารถรับสารบำรุงได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น สารสกัดที่ได้จากการหมักถั่วเน่า หรือ สารสกัดจากโสมแดง เป็นต้น
7. Hormones For Skin อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อสภาพผิวเราอย่างมากนั่นก็คือฮอร์โมนนั่นเอง อย่างเช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงในวัยสูงอายุ ที่จะพบว่าระดับของเอสโตรเจนลดลง ทำให้เกิดริ้วรอย หรือผิวสูญเสียความชุ่มชื้นนั้น ทำให้วงการสกินแคร์เริ่มมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือส่วนประกอบที่ตอบโจทย์นี้ อย่าง Phytoestrogen ซึ่งเป็นสารประกอบจากธรรมชาติที่มีสูตรโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่สามารถช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้ผิว ทำให้ผิวกระชับและอวบอิ่มได้
8. Souped Up Suncare เป็นการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์กันแดดที่ไม่เพียงแต่จะปกป้องผิวจากรังสี UV จากแสงแดด แต่ยังสามารถปกป้องผิวจากแสง HEV (High Energy Visible Light) หรือที่เรารู้จักกันก็คือแสงสีฟ้า (Blue Light) นั่นเอง เนื่องจากปัจจุบันผู้คนต่างก็ใช้ชีวิตอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์กันส่วนใหญ่ ทำให้แสงสีฟ้าจากหน้าจออาจส่งผลเสียต่อผิวเราได้ เช่นริ้วรอยก่อนวัยอันควร หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ เป็นต้น ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่สามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงสีฟ้าก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สำคัญ
จะเห็นได้ว่าเทรนด์สกินแคร์ที่มาในปี 2022 นี้นั้น ตอบโจทย์คนในทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบำรุงหรือการปกป้องผิว เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ให้กับผิวของตัวเองให้มากที่สุด และเชื่อว่าทุกคนจะหันมาให้ความสนใจและดูแลตัวเองกันมากขึ้น เพราะผิวที่ดีรอไม่ได้